อาหารเด็กวัย 0–3 ขวบ
อาหารเด็กวัย 0–3 ขวบ

ทารกมีอาการแบบนี้ อย่ารีรอต้องมาพบหมอด่วน

ช่วงวัยลูก



ทารกมีอาการแบบนี้ อย่ารีรอต้องมาพบหมอด่วน




1.ตัวเหลือง
ทารกแรกคลอดส่วนใหญ่ มักจะมีอาการตัวเหลืองในสัปดาห์แรกโดยเฉพาะวันที่ 3 หลังคลอด และค่อย ๆ หายไปในวันที่ 7 สาเหตุที่ทารกตัวเหลือง คือ เกิดจากการสลายตัวของเม็ดเลือดแดงและการทำงานของตับยังไม่สมบูรณ์
เมื่อลูกน้อยได้นมแม่มากขึ้นอวัยวะต่าง ๆ ทำงานเป็นปกติอาการตัวเหลืองจะหายไปเอง แต่ถ้าสังเกตเห็นทารกตัวเหลืองมากขึ้นทุกวัน สีผิวคล้ายทาขมิ้น ทารกมีไข้ร่วมด้วย ตาเหลือง ทารกดูดนมไม่เก่ง ท้องผูก ร้องเสียงแหลม น้ำหนักขึ้นน้อย อาจมีสาเหตุอื่นที่ทำให้ตัวเหลืองแบบนี้ไม่ดีแน่ค่ะ ต้องรีบพาเจ้าตัวน้อยไปพบคุณหมอด่วนค่ะ เพื่อหาสาเหตุและรักษาต่อไป


2.สะดือมีกลิ่นเหม็น มีเลือด มีหนอง
ตามปกติแล้วทารกหลังคลอดสะดือจะแห้งและหลุดออกภายใน 7 – 10 วัน ซึ่งเด็กแต่ละคนจะมีระยะเวลาที่สะดือหลุดไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ ลักษณะของสะดือที่หลุดมานั้นควรจะแห้ง ไม่มีกลิ่นเหม็น มีเลือดหรือมีหนองออกมา แบบนี้จึงจะ เรียกว่า “ผ่าน” ไม่มีปัญหาอะไร อาจจะมีเลือดซึม ๆ ออกมานิดหน่อยไม่เป็นไรค่ะ ที่สำคัญหลังอาบน้ำลูกน้อยแล้ว ควรเช็ดทำความสะอาดสะดือให้แห้ง อย่าใช้แป้งโรยสะดือนะคะ เพราะอาจเกิดการอักเสบได้ แต่ถ้าสะดือของเจ้าตัวเล็กยังไม่หลุด มีกลิ่นเหม็น มีเลือด แถมหนองออกมาในบางครา มีลักษณะบวม แดง แบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้แล้วค่ะ เพราะสะดือของลูก ทำท่าจะติดเชื้อเสียแล้ว ต้องรีบไปหาคุณหมอเพื่อตรวจรักษาต่อไป


3.อาเจียน
ทารกแรกเกิดจนถึง 6 เดือน กระเพาะอาหารและระบบการย่อยยังพัฒนาได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะในช่วงแรกคลอดนั้นกระเพาะลูกน้อยยังเล็กมาก ยิ่งกินนมเข้าไปจำนวนมากมีโอกาสสูงที่จะแหวะนม หรือบางคนถึงขั้นอาเจียนออกมาก็มี
ดังนั้น หลังให้นมลูกแล้ว คุณแม่จำเป็นต้องจับลูกเรอทุกครั้งเพื่อไล่ลมหรืออากาศที่อยู่ในท้อง แต่ถ้ามีการอาเจียนทุกครั้งหลังกินนม ต้องรีบพาไปพบคุณหมอแล้วค่ะ เพราะอาจเกิดความผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร หรือเกิดการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นในนมผสม ที่สำคัญ ห้ามนะคะเพราะมันอันตรายมาก คือ การซื้อยามาให้ลูกกินเอง ควรพบคุณหมอจะดีที่สุดค่ะ


4.ท้องเสีย
ตามปกติแล้วทารกแรกเกิดจะถ่ายอุจจาระวันละหลาย ๆ ครั้ง โดยเฉพาะเด็กที่กินนมแม่ อุจจาระที่ขับถ่ายออกมากลิ่นจะไม่เหม็นรุนแรง และมักจะออกเป็นสีเหลืองเข้ม ๆ ปกติ
หากคุณแม่สังเกตสีของอุจจาระที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะอุจจาระหยาบมีเนื้อ หรืออุจจาระเหลวมีมูกเลือด แบบนี้ต้องรีบพาไปหาคุณหมอค่ะ กรณีนี้มักจะเกิดกับทารกที่กินนมผสม อาจเกิดการติดเชื้อ เช่น อุปกรณ์การผสมนมไม่สะอาด หรือให้กินนมที่ค้างจากครั้งก่อนซึ่งห้ามเด็ดขาดนะคะ


5.ปากเป็นฝ้าขาว
ทารกที่ปากเป็นฝ้าขาว ที่มักจะเกิดจากคราบนมที่สะสมอยู่ในปาก คนโบราณมักบอกให้ใช้ผ้าเปียกฉี่ของลูกน้อยนั่นแหละเช็ดลิ้นและกระพุ้งแก้ม ห้ามนะคะคุณแม่ข้อนี้เป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องมาก ๆ ให้คุณแม่ใช้สำลีหรือผ้าสะอาดชุบน้ำต้มสุกเช็ดออกให้หมด แต่ถ้าเช็ดไม่ออกหรือหลังเช็คมีเลือดออกและเป็นมาก บริเวณกระพุ้งแก้มทั้งสองข้างและเพดานปากอาจเกิดจากเชื้อรา ดังนั้น ต้องพาไปหาหมอแล้วค่ะ และอย่าซื้อยามาทาหรือป้ายปากเองนะคะ เพราะอาจเป็นอันตรายได้


6.หูมีน้ำไหลออกมา
น้ำเข้าหูสามารถเกิดได้เวลาที่อาบน้ำ สระผม วิธีป้องกันขณะสระผมให้ทารกควรใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วกลางพับใบหูเข้าข้างในให้แน่น เพื่อป้องกันน้ำเข้าหูหลังสระผมแล้วควรเช็ดให้แห้งและหมั่นสังเกตว่าบวมแดงหรือมีน้ำไหลออกจากหูหรือไม่ ถ้ามีต้องหาหมอค่ะ


7.มีไข้
ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงจะทำให้ทารกน้อยเป็นหวัดฮัดชิ่วกันได้บ่อย ๆ วิธีป้องกันคือ
1.พยายามให้ความอบอุ่นกับร่างกาย หลังจากสระผมเช็ดผมให้แห้ง
2.อย่าให้ทารกนอนใกล้พัดลม
3.ถ้าเป็นหวัดแล้วมีน้ำมูกให้ใช้สำลีสะอาดพันปลายไม้แคะน้ำมูกออกให้หมด ลูกจะหายหวัดได้เอง
4.ถ้าเป็นหวัด ไอและมีไข้สูงมาก คุณแม่ควรลดไข้โดยใช้น้ำเช็ดตัว
คำแนะนำหากลูกที่ไข้สูงมากอาจชักได้เนื่องจากสมองขาดเลือดมาเลี้ยง ในกรณีที่ลดไข้โดยการเช็ดตัวแล้วไข้ยังไม่ลด ไม่ควรใช้ยาลดไข้เอง ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วนค่ะ


8.อาการชัก
เป็นอาการที่เกิดขึ้นกับเด็กง่าย อาจเกิดจากไข้สูงหรือสาเหตุอื่น ๆ ต้องรีบพบคุณหมอโดยด่วนอย่าตกใจเพราะอาการที่เกิดเป็นอาการเตือนเท่านั้น ระหว่างที่เดินทางมาพบมาพบคุณหมอให้เด็กพักเงียบ ๆ ให้ความอบอุ่นแก่เด็ก ระวังการสำลักโดยให้เอียงหน้าเด็กและหาผ้านิ่มม้วนแน่น ๆ สอดที่มุมปากเพื่อป้องกันการกัดลิ้น


9.เขียวขณะกินนม
ในขณะให้นมลูก ถ้าเจ้าตัวเล็กมีอาการเหนื่อยหอบและรอบปากเขียวคล้ำ ลูกน้อยอาจมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ควรรีบพาไปพบคุณหมอเพื่อทำการตรวจเช็คให้ละเอียดค่ะ


10.ตาอักเสบ
ทารกมีขี้ตา มักเกิดจากท่อน้ำตาอุดตันช่วยแก้ไขได้โดยนวดหัวตาเบา ๆ ข้างที่มีน้ำตาแต่ถ้าขี้ตามีสีเหลืองหรือสีเขียวแสดงว่ามีการอักเสบของตา ต้องมารับการรักษานะคะ
ได้ทราบอาการที่ควรมาพบคุณหมอกันแล้วนะคะ เด็กทารกยังไม่สามารถสื่อสารเป็นคำพูดกับเราได้ ดังนั้น ควรหมั่นสังเกตอาการของลูกน้อย หากพบความผิดปกติใด ๆ เกิดขึ้น อย่าปล่อยไว้ เพราะอาจเกิดอันตรายได้

ที่มา:https://www.maerakluke.com/topics/26594

Milk Plus & More